องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

Sisaket Provincial Administrative Organization

ข้อมูล

คู่มือประชาชน

ปฏิทินกิจกรรม

ผู้ดูแลระบบ

อบจ.ศรีสะเกษ ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จัดโครงการฝึกอบรม "ถอดบทเรียนกล้าน้อยนักอนุรักษ์ รุ่น 1"

13 มกราคม 2558

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2558 ณ หอประชุมศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดโครงการฝึกอบรม "ถอดบทเรียนกล้าน้อยนักอนุรักษ์ รุ่น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ" ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อให้นักเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ผ่านการเข้าร่วมโครงการ ค่าย อบจ.เพาะเมล็ดพันธุ์กล้าน้อยนักอนุรักษ์ รุ่น 1 ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าอุบลราชธานีมาแล้วนั้น ได้มีการสร้างเครือข่ายและตั้งกลุ่มในการทำหน้าที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นถิ่นตนได้อย่างเข้มแข็ง และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดสู่ชุมชนของตนเองเพื่อให้ชุมชนตระหนักตลอดจนเกิดความเข้าใจ และหันมาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่รอบข้างให้ยั่งยืน

โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วิชิต ไตรสรณกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิด อีกทั้งมีการบรรยายพิเศษ โดยนายอภิศักดิ์ แซ่จึง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ และ นายกกชัย ฉายรัศมีกุล นายอำเภอวังหิน หลังจากนั้นก็ได้มีการชมภาพแห่งวันวานเพื่อเป็นการทบทวนกิจกรรมก่อนจะพักรับประทานอาหารในช่วงเช้า ซึ่งในตอนบ่ายนั้น ก็มีน้อง ๆ นักเรียนจากโรงเรียนบ้านอีเซ ได้นำกระปุกออมสินมาให้กับพี่ ๆ ร่วมตอบคำถามเพื่อร่วมสนุกกัน อีกทั้งมีหนังสือพิมพ์รางวัลลูกโลกสีเขียวซึ่งมีผลงานของน้อง ๆ ในด้านการอนุรักษ์มาให้พี่ ๆ ได้อ่านกันอีกด้วย ซึ่งในช่วงนี้นั้น ท่านคุณครูพีรชัย วงษ์เลิศ ท่านก็ได้มาบอกเล่าแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเครือข่ายนักอนุรักษ์ ซึ่งน้อง ๆ เมื่อได้ฟังต่างก็ตั้งใจและสนใจกันเป็นอย่างดียิ่ง ต่อมาเมื่อกระบวนการสร้างแรงบันดาลใจเสร็จสิ้นไป ก็เข้าสู่การจัดตั้งกลุ่มนักอนุรักษ์ ซึ่งได้มีการจัดกลุ่มตามพื้นที่ของแต่ละโรงเรียน ซึ่งในกระบวนการนี้นั้นมีครูถาวรณ์ วังสำเภา เป็นผู้จัดแบ่ง โดยได้แบ่งออกทั้งหมด 10 กลุ่มด้วยกัน เมื่อแบ่งกลุ่มเสร็จสิ้น คณะพี่เลี้ยงประจำกลุ่มก็ได้ลงไปให้คำปรึกษาในเรื่องของการทำงานอนุรักษ์อันเป็นเป้าหมายของแต่ละกลุ่ม เพราะว่าในแต่ละกลุ่มที่ได้จัดตั้งขึ้นนั้น มีทรัพยากร มีสภาพพื้นที่ ๆ ที่จะต้องอนุรักษ์นั้น ต่างกันไป โดยให้น้อง ๆ ได้ระดมความคิดเห็นกันภายในกลุ่มองตนเอง เขียนถึงเป้าหมายที่จะอนุรักษ์ สถานที่ กลุ่มเป้าหมาย และสร้างปฏิทินการปฏิบัติงานของตนเอง ซึ่งมีขีดจำกัดการทำงานให้สำเร็จภายในเดือน พฤษภาคม 2558 ซึ่งจะมีคณะกรรมการครูพี่เลี้ยง ได้ออกไปดูการจัดกิจกรรมของเด็ก ๆ เพื่อเป็นการให้คำปรึกษา และให้กำลังใจในการปฏิบัติงานให้สำเร็จลุล่วง ก่อนที่จะเข้าสู่การฝึกอบรม "กล้าน้อยนักอนุรักษ์ใน รุ่นที่ 2 " ต่อไป

หลังจากที่ตัวแทนในแต่ละกลุ่มได้ออกมานำเสนองานแล้วนั้น ก็ได้มีการคัดเลือกคณะกรรมการเครือข่าย โดยในขั้นต้นนั้น นักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมโครงการนั้นถิอว่าเป็นกรรมการทั้งหมด ทว่าก็ได้มีการคัดเลือกทีมงานซึ่งจะทำหน้าที่ในการทำกิจกรรม และขับเคลื่อนการทำงานของเครือข่ายอนุรักษ์ รุ่น 1 โดยการคัดเลือกเพื่อหาประธานเครือข่ายนั้น ได้มีการคัดเลือกโดยให้หัวหน้ากลุ่มทั้ง 10 กลุ่ม ได้ลงประชามติเพื่อเลือกผู้ที่จะมารับเลือกให้เหลือเพียง 3 คน เพื่อมาให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการทุกคนได้ลงประชามติกันอีกครั้ง ซึ่งผู้ที่ได้ผ่านมาเข้าสู่การคัดเลือกนั้น มี 3 คนได้แก่ น้องเจ จากโรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ น้องฟ้า จากโรงเรียนพรานวิบูลวิทยา และน้องวัชรการ จากโรงเรียนด่านอุดมศึกษา ซึ่งผลการคัดเลือกที่ออกมานั้น ผู้ที่ได้คะแนนนำมาเป็นอันดับ ที่ 1 คือ น้องเจ จากขุนหาญวิทยาสรรค์ ได้คะแนน 35 คะแนน อันดับที่ 2 คือ น้องวัชรการ จากโรงเรียนด่านอุดมศึษา และน้องฟ้า จากพรานวิบูลวิทยาได้คะแนนเป็นที่ 3 คือ ได้ไปทั้งหมด 13 คะแนน ซึ่งผู้ที่จะได้มาเป็นประธานเครือข่าย นั้นก็คือ น้องเจ จากโรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ ส่วนอีก 2 คน ก็ได้รับตำแหน่งรองประธานเครือข่ายไปโดยอัตโนมัติ

เมื่อการเลือกประธานเครือขายได้เสร็จสิ้นไปก็เป็นพิธีปิด โดย นายสุรศักดิ์ ภาผล รองผู้อำนวยการโรงเรียนหนองทุ่มศรีสำราญวิทยา เป็นประธาน ก่อนจะเข้าสู่กิจกรรมปิดท้าย นั่นก็คือ การอำลา ในกิจกรรมอำลาครั้งนี้ น้อง ๆ บางคนต่างก็เข้ามากอดคณะพี่เลี้ยง คณะวิทยากร บางคนถึงกับมีน้ำตา ภาพการจากลาเป็นไปด้วยความซาบซึ้งและประทับใจ นี่เป็นภาพที่สะท้อนความรู้สึกได้เป็นอย่างดีว่า เครือข่ายนักอนุรักษ์น้อยองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษได้เติบโตความสัมพันธ์อันแน่นเหนียวขึ้นมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว ความสัมพันธ์ที่มีแต่จะเพิ่มพูนมากขึ้นทุกวัน ด้วยเราต่างมีจุดหมายเป็นหนึ่งเดียวนั่นคือ "การอนุรักษ์อย่างยั่งยืน"