“พระธาตุเรืองรอง” ตั้งอยู่ภายในวัดบ้านสร้างเรือง อำเภอเมือง พระธาตุเรืองรอง อยู่ห่างจากตัวเมืองศรีสะเกษไปประมาณ 7.5 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยหลวงปู่ธัมมา พิทักษา เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสำหรับให้ชาวพุทธ ลักษณะเป็นอาคารที่มีการผสมผสานศิลปะอีสานใต้ 4 เผ่า ได้แก่ ลาว ส่วย เขมร และเยอ มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัว บนยอดพระธาตุมีจุดชมวิว ที่สามารถชมทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างงดงาม
เมื่อมาถึงวัดแล้วก็ต้องเข้ามากราบสักการะพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ภายใน “โบสถ์วัวเทียมเกวียน” ที่มีลักษณะเป็นรูปปั้นวัว 2 ตัวขนาดใหญ่สูงประมาณตึกสองชั้น กำลังลากเกวียนที่ครอบตัวโบสถ์อยู่ ซึ่งก่อนที่จะมาเป็นโบสถ์วัวเทียมเกวียนนั้น ก็เป็นเหมือนโบสถ์ตามวัดทั่วไป ต่อมาหลวงปู่ธัมมา พิทักษา ได้เห็นว่าในปัจจุบันนั้นหาดูเกวียนได้ยากแล้ว จึงได้จัดสร้างขึ้นให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความสำคัญของการใช้เกวียนในสมัยก่อน
ใกล้กับโบสถ์จะเป็น “พระธาตุเรืองรอง” ลักษณะเป็นอาคารสูง 6 ชั้น มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โดยเป็นแบบผสมผสานแนวศิลปวัฒนธรรมของสี่ชนเผ่าของอีสานใต้ คือ ลาว ส่วย เขมร และเยอ ในแต่ละชั้นจะแบ่งออกเป็นส่วนจัดแสดงต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมเพลินๆ ก่อนขึ้นไปถึงด้านบน
โดยชั้นแรกจะจัดแสดงนิทานพื้นบ้านบอกเล่าถึงความเป็นมา ประเพณีต่างๆ ที่สืบต่อกันมา ถัดมาที่ชั้นสองจะเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีหุ่นจำลองเรื่องราวประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ ของชนเผ่าลาว ส่วย เขมร และเยอ จัดแสดงอยู่โดยรอบทั้ง 4 มุม
ชั้นที่สามจะเป็นส่วนจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือดักจับสัตว์ หนังสือ เป็นต้น ส่วนในชั้นที่สี่และห้าจะเป็นจุดพักผ่อนให้เหนื่อยก่อนที่จะขึ้นไปยังชั้นสุดท้าย ซึ่งในชั้นสูงสุดนี้จะเป็นที่บรรจุพระบรมเกศาธาตุของพระอรหันต์ และยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นโดยรอบได้แบบ 360 องศา
เมื่อลงจากพระธาตุฯ แล้ว อย่าลืมแวะมาสักการะอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดนี้ นั่นก็คือ “หลวงพ่อร่มเย็น” พระประจำพระธาตุเรืองรอง ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2543 และรอบบริเวณนี้ยังมีแบบจำลองปูนปั้นปริศนาธรรม และแบบจำลองปูนปั้นประเพณี พิธีกรรมที่สำคัญของภาคอีสาน ให้ได้เดินชมอีกมากมาย